วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2551

โครงการศิลปะหัตถศิลป์เพื่อเด็กเร่ร่อน


จากสถานการณ์ปัญหาเด็กข้างถนนในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นเด็กที่หนีออกจากบ้านเพราะขาดความอบอุ่นจากครอบครัวแตกแยก บางรายพ่อแม่เสียชีวิตหรือติดคุกเพราะค้ายาเสพติดต้องทิ้งเด็กให้อยู่กับญาติพี่น้อง และอีกกลุ่มที่เป็นเด็กชาวเขาที่อพยพเคลื่อนย้ายมาจากบนภูเขาทั้งในประเทศไทยและประเทศพม่าทางตะเข็บชายแดนอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยกลุ่มเด็กจะเข้ามาใช้ชีวิตเร่ร่อนในเมืองเชียงใหม่เพื่อขอทาน ขายดอกไม้ให้กับนักท่องเที่ยว เด็กส่วนใหญ่ไม่ได้รับการศึกษา ไม่มีสัญชาติ ถูกใช้แรงงาน จึงทำให้มีความเสี่ยงในหลาย ๆ ด้าน เช่น การใช้ยาเสพติด โรคเอดส์ ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์ทางเพศและตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ในปี 2549 ที่ผ่านมาประมาณว่ามีเด็กข้างถนนในพื้นที่เชียงรายและเชียงใหม่ประมาณ 500-600 คน



มูลนิธิอาสาพัฒนาเด็กได้เริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2540 เพื่อให้การช่วยเหลือเด็กข้างถนนโดยตรง ซึ่งมีพื้นที่ในการทำงานคือ พื้นที่ปลายทาง ได้แก่ เขตอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ต้นทางเขตอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย จากการทำงานระหว่างปีพ.ศ.2540 จนถึงปัจจุบัน ได้ให้การช่วยเหลือเด็กและเยาวชนข้างถนน จำนวนมากกว่า 500 คน เป็นการช่วยเหลือเด็กทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว
ในปัจจุบันยังพบความท้าทายในการทำงานคือ จะทำอย่างไรที่จะทำให้กลุ่มเด็กข้างถนนเหล่านี้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพและสามารถยืนหยัดในตนเองที่จะเลือกทางดำเนินชีวิตเพื่อไม่ให้ตนเองตกอยู่ในความเสี่ยง ดังนั้นทางมูลนิธิจึงมีแนวคิดที่จะดำเนินโครงการนี้ขึ้น โดยจะจัดให้มีการฝึกทักษะอาชีพด้านศิลปะหัตถศิลป์สำหรับเด็กข้างถนน เช่น ภาพถ่ายโปสการ์ด ปักผ้าลายชนเผ่า ถักสร้อยข้อมือ จักสาน บาติก เปเปอร์มาร์เช่ ของเล่นพื้นบ้านและอื่น ๆ ตามความสนใจเพื่อฝึกฝนให้เด็กได้เกิดทักษะอาชีพสำหรับอนาคต และงานศิลปะยังสามารถช่วยบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจ ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ความตระหนักในคุณค่าของตนเองของเด็กอีกด้วย นอกจากนี้ทางโครงการจะมีการตั้งแกลลอรี่ขึ้น เพื่อเป็นการนำเสนอและจำหน่ายผลงานของเด็ก และเด็กยังจะได้ฝึกเป็นผู้ขายสินค้าด้วยตัวของเขาเอง โดยเด็กจะได้รับรายได้ 30% จากการจำหน่ายสินค้า 40% จะใช้เป็นทุนหมุนเวียน และอีก 30% จะตั้งเป็นกองทุนการศึกษาและอาชีพสำหรับเด็กเพื่อให้เด็กได้ใช้ประโยชน์กับการศึกษาของพวกเขาต่อไป ซึ่งคาดหวังว่าจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับเด็กได้เข้าร่วมโครงการและโครงการจะมีทุนหมุนเวียนได้ในอนาคต

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอสนับสนุนครับ